10 วิธีเรียนภาษาอังกฤษอย่างไรให้เก่งเร็วๆ
1. อ่านทุกอย่างที่จะอ่านได้
นิยายคลาสสิก, พอกเก็ตบุ้ค, หนังสือพิมพ์, เว็บไซต์, อีเมลล์, โซเชียลมีเดีย, กล่องซีเรียล:
ถ้ามีภาษาอังกฤษ ทำไมไม่ลองอ่านดูล่ะ ในเนื้อหาพวกนี้มีทั้งคำใหม่และคำที่รู้อยู่แล้ว
จะช่วยให้เลเวลอัพได้เร็วขึ้น
การเห็นคำพวกนี้ผ่านตาบ่อยๆทำให้ได้ตัวอย่างการใช้ในบริบทต่างๆ
จะช่วยเน้นย้ำคำศัพท์พวกนี้ให้ขึ้นใจ
แถมการเรียนรู้คำและสำนวนใหม่ๆนั้นเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างคลังแสงคำศัพท์ของคุณ
โดยเฉพาะในภาษาอย่างภาษาอังกฤษที่มีคำเยอะแยะไปหมด! แต่ไม่ใช่แค่อ่านแล้วก็จบเลย
ขั้นต่อไปต้อง…
2.
จดโน้ตคำศัพท์ใหม่ๆอยู่เสมอ
มันก็น่าอยู่ว่าทำไมวิธีนี้ถึงเป็นวิธีคลาสสิค:
เพราะมันได้ผลไงล่ะ! เมื่อกำลังเรียนภาษาเรามักจะเรียนคำหรือสำนวนใหม่ๆจนเพลินแล้วนึกว่าคงไม่ลืมหรอก
แต่เชื่อเถอะว่าของยังงี้ไม่ใช่จะจำได้หมดในครั้งเดียว
เพื่อการนี้ลองพกสมุดโน้ตเก๋ๆให้เป็นนิสัย หรือลองใช้แอป Evernote เมื่อไหร่ที่ได้ยินหรืออ่านคำหรือคำนวนใหม่ก็จดลงไปพร้อมกับบริบทของคำนั้นด้วย:
คือจดทั้งประโยคและความหมาย เวลาทบทวนจะได้ไม่ต้องคอยถามตัวเองว่า “ตกลงคำ/สำนวนนี้มันแปลว่าอะไรนะ”
3.
คุยกับคนตัวเป็นๆ
ภาษาจะมีไว้ทำไมถ้าไม่ได้ใช้สื่อสาร
จริงอยู่ว่าคนเรานั้นช่างเม้าถึงขั้นไม่ต้องเปิดปากก็เม้าได้ – ต้องขอบคุณไลน์
– แต่เมื่อเอาเข้าจริง การพูดคุยจริงๆทำให้ช่วยจำได้ดีกว่าการพิมพ์มาก
ลองนึกดูว่ามีคนซักกี่คนที่บอกว่าตัวเอง “เข้าใจภาษาอังกฤษแต่พูดไม่ได้” หลายๆคนที่มีแววจะพูดอังกฤษได้ทำให้การพูดกลายเป็นกำแพงกั้นที่ไม่อาจข้ามได้
อย่าเป็นแบบนั้น ลองหาเจ้าของภาษาเพื่อแลกเปลี่ยนแบบเล่นๆ สมัครเรียน หรือเรียนออนไลน์ดู
4.
ติดตามพอดแคสหรือยูทูปแชเนล
ไม่ว่าจะชอบเรื่องขำขัน
การเมือง บลอก การทำอาหาร
มีพอดแคสหรือแชเนลยูทูปภาษาอังกฤษสำหรับคุณแน่นอนด้วยหัวข้อที่ครอบคลุมอย่างไม่น่าเชื่อ
ลองติดตามสักสองสามอันแล้วฟังระหว่างขับรถหรือดูระหว่างทางไปโรงเรียนหรือไปทำงาน
แรกๆอาจจะรู้สึกว่าสำเนียงเจ้าของภาษาฟังยาก แต่พยายามต่อไปจะเริ่มฟังออกเอง
(แถมยังได้เรียนคำใหม่ๆจากเจ้าของภาษาด้วย)
5. ไปเรียนต่อต่างประเทศ
ถ้ามีวิธีการไหนดีไปกว่าการเรียนภาษาอังกฤษด้วยการฝังตัวเองในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเราก็อยากจะรู้เหมือนกัน!
ไม่ใช่ความลับว่าภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก
จึงมีประเทศให้เลือกมากมาย คุณสามารถเลือกบรรยากาศการเรียนในฝันได้ทั้งจาก สถานที่, อากาศ
หรือเมืองที่ชอบ อย่าง ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อังกฤษ, อเมริกา, แคนาดา
และแอฟริกาใต้
6.
เรียนผ่านเพื่อน
มีเพื่อนที่โพสเป็นภาษาอังกฤษออนไลน์บ้างมั้ย
อย่าได้ปล่อยผ่าน: ลองดูว่าพวกเขาแชร์อะไร และพยายามอ่านดูวันละโพสสองโพส
อาจจะเป็นข่าว, บทความจากนิตยสาร, วิดีโอ, บทสนทนา, บลอก, เพลง
หรืออะไรก็แล้วแต่: ถ้ามันเป็นภาษาอังกฤษ และมันน่าสนใจ มันจะช่วยได้!
7.
ถามเยอะๆเข้าไว้
ปลาหมออาจตายเพราะปาก
แต่สำหรับคนกำลังเรียนภาษานั้นยิ่งถามเยอะยิ่งเก่งเร็ว!
เมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษคุณจะมีคำถามมากมายก่ายกอง อย่ามัวแต่นั่งมึน – ทำตัวอยากรู้อยากเห็นแล้วหาทางตอบคำถามเหล่านั้น!
ถ้าคุณอยู่ในชั้นเรียนภาษาลองถามครูดู (มันเป็นหน้าที่ของพวกเขาอยู่แล้ว)
แต่ถ้าคุณเรียนด้วยตนเองก็อย่ากังวล: หาคำตอบจากบลอกหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับภาษา
ถามผู้เรียนคนอื่นๆ หรืออ่านจากเว็บฟอรัม รับรองไม่เสียแรงเปล่า!
8.
เดินตามรอยดารา
ลองเปลี่ยนวิธีการเรียนด้วยการเลือกดารานักร้องที่พูดภาษาอังกฤษที่ชื่นชอบ
แล้วค้นออนไลน์ หาบทสัมภาษณ์ที่พวกเขาให้ไว้ – แล้วลองดู! ดูครั้งแรกให้พอรู้เรื่อง
แล้วดูอีกครั้ง คราวนี้จดคำหรือสำนวนที่น่าสนใจที่คุณได้ยิน คำสแลง, เรื่องเล่า, มุกตลก
หรือเกล็ดความรู้ที่ได้จากการให้สัมภาษณ์เหล่านี้จะเป็นบทเรียนที่ดีเยี่ยม
9.
เริ่มจากเรื่องที่จำเป็น
การเรียนภาษาอังกฤษจะไปได้เร็วกว่ามากถ้าคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร
ถ้าคุณกำลังจะไปแลกเปลี่ยนก็เน้นคำศัพท์เกี่ยวกับการเรียน ถ้ากำลังจะไปงานสมนาต่างประเทศก็เน้นเรื่องการสนทนาไว้คุยกับเพื่อนร่วมงาน
ไปในช่วงพักระหว่างม.ปลายกับมหาลัยก็เน้นคำคัพท์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ถ้าคุณเริ่มเรียนภาษาอังกฤษโดยหวังจะเรียนรู้ได้ทุกอย่างราวกับมีเวทมนตร์
มีแต่จะหมดกำลังใจและสับสนเสียเปล่า ซึ่งนำไปสู่…
10.
อย่าโมโหตัวเองถ้าทำพลาด
เมื่อรู้สึกว่าเรียนแล้วไม่ได้อะไร
– ซึ่งเป็นกันได้ทุกคน – อย่าพูดว่า “ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้” หรือ
“ฉันคงไม่มีวันเข้าใจ” ที่จริงแบนคำพวกนี้จากสารระบบไปเลย!
มันมีแต่จะทำให้มองไม่เห็นว่าตัวเองพัฒนาไปแค่ไหนแล้ว
แถมยังทำให้เชื่อว่าความฝันที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ไม่มีวันเป็นจริง ลองแทนด้วย “ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษและพัฒนาไปทุกๆวัน” “มันอาจจะไม่ง่าย แต่มันคุ้มค่า” “ฉันดีขึ้นมากเทียบกับ 6 เดือนก่อน” และประโยคอื่นๆเพื่อเตือนตัวเองให้มองเห็นภาพรวม เครดิต www.ef.co.th
Comments
Post a Comment